นักวิเคราะห์มองว่า นายทาโร่ อาโซ เป็นทางเลือกที่มีศักยภาพพอที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายยาซูโอะ ฟูกุดะ ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อคืนนี้ แต่รัฐนาวาภายใต้การนำของนายอาโซจะทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายของรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอีก แม้ญี่ปุ่นเผชิญตัวเลขหนี้สินสาธารณะที่มากที่สุดในโลกในเวลานี้แล้วก็ตาม
ปีเตอร์ วิลสัน นักยุทธศาสตร์ด้านการเงินจากธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า นายอาโซ วัย 67 ปีเป็นแกนนำในการก่อตั้งรัฐบาลของนายฟูกุดะ แต่นายอาโซเป็นนักการเมืองประเภท "มือเติบ" ที่ทุ่มเงินงบประมาณในโครงการต่างๆอย่างไม่คำนึงถึงผลเสียที่อาจจะตามมา ทั้งนี้ วิลสันคาดว่า รัฐบาลของนายอาโซจะใช้งบประมาณราว 2 พันล้านเยน หรือ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นประมาณ 2.4%ต่อปี
ด้านนายทัตซูโอะ อิชิกาว่า นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนจากอาร์บีเอส ซิเคียวริตีส์ เจแปน กล่าวว่า "หากนายอาโซก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น จะทำให้ญี่ปุ่นตกอยู่ในความเสี่ยงที่งบประมาณของรัฐบาลจะถดถอยและอัตราการกู้ยืมจะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนายอาโซมุ่งเน้นแต่เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือเป็นแนวโน้มด้านลบสำหรับภาคการคลัง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายยาซูโอะ ฟูคูดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเผชิญวิกฤตศรัทธาและปัญหามากมาย รวมถึงปัญหาในการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกล่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งภายในเพื่อเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา โดยเขาได้หารือกับนายทาโร อาโซ ผู้นำพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย (แอลดีพี) คนปัจจุบันแล้ว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--