รมช.คลังเกาหลีใต้ปรามนลท.อย่าตื่นตลาดเงินเกินเหตุ ชี้ศก.ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต

          คิม ดอง ซู รมช.คลังของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า กระแสความวิตกกังวลที่ว่าเกาหลีใต้กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงินนั้นเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล แต่ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อแก้ปัญหาเงินวอนที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากที่รมช.คลังเกาหลีใต้ออกมาแสดงความคิดเห็นในวันนี้ เงินวอนดีดตัวขึ้นจากที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในรอบ 4 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน 
          โทมัส ไบร์น นักวิเคราะห์จากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสกล่าวว่า เกาหลีใต้จะไม่เผชิญปัญหาซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2540 พร้อมทั้งกล่าวว่า แนวโน้มอันดับเครดิตระยะยาว A2 ของประเทศอยู่ในระดับที่มีเสภียรภาพ
          ในปีนี้สกุลเงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลงไปแล้ว 16% ซึ่งถือเป็นการอ่อนค่าลงหนักที่สุดในกลุ่มสกุลเงินของเอเชีย เนื่องจากราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นประกอบภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้กระตุ้นให้นักลงทุนโยกย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ ขณะที่รัฐบาลได้ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในคลังสำรองเพื่อหวังที่จะกระตุ้นการแข็งค่าของเงินวอน หลังจากที่เงินวอนร่วงลงจนทำให้เกิดเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งภาวะดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
          "นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกเกินเหตุและขณะนี้เศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้นวิกฤต" ยู บัง อ๊อก นักวิเคราะห์จาก Mirae Asset Investments Co กล่าว "เมื่อรัฐบาลเบนเข็มจากการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาควบคุมเงินเฟ้อ ภาครัฐก็จำเป็นต้องยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาดเงินบ้างเพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไร"
          ทั้งนี้ ณ เวลา 10.47 น.ตามเวลาในกรุงโซล เงินวอนของเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 0.1% หลังจากที่อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อวอนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี โดยดัชนีคอมโพสิตฟื้นตัวขึ้น 0.4% หลังจากดิ่งลง 4.1% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2550