นักวิเคราะห์คาด"จีเอ็ม-ไครสเลอร์"นำทัพค่ายรถสหรัฐรายงานยอดขายซบเซาในเดือนส.ค.

          บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (General Motors Corp.) และไครสเลอร์ แอลแอลซี (Chrysler LLC ) มีแนวโน้มรายงานยอดขายรถในสหรัฐที่ทรุดฮวบลงในเดือนส.ค. เนื่องจากผู้ซื้อรถรายใหม่ขาดแรงจูงใจ ขณะที่ภาคธุรกิจยานยนต์เริ่มชะลอตัวลงมาตั้งแต่เดือนธ.ค.2550
          ค่ายรถยนต์สหรัฐที่ยังคงต้องพึ่งพายอดขายรถบรรทุกขนาดเล็ก และยานยนต์อเนกประสงค์มีแนวโน้มต้องเพลี่ยงพล้ำคู่แข่งค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ป และฮอนด้า มอเตอร์ โคอีกครั้ง เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ได้ทำให้อุปสงค์รถบรรทุกปรับตัวลดลง 
          ยอดขายที่ลดลงอาจทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์เผชิญภาวะซบเซาต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 แต่การปรับกลยุทธ์ของตัวแทนจำหน่ายที่ได้ให้ส่วนลดและเสนอเงื่อนไขผ่อนชำระด้วยดอกเบี้ย 0% ให้กับลูกค้าทุกรายนั้นอาจช่วยทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเดือนก.ค. 
          ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ยอดขายรถใหม่ในเดือนส.ค.อาจขยายตัวขึ้นแตะที่ 13 ล้านคัน จากระดับ 12.6 ล้านคันในเดือนก.ค.          
          "เราคาดว่าสถานการณ์ต่างๆจะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆในช่วงเวลานี้ หากตลาดยังไม่ได้รับปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งพอ" เจฟฟ์ ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์จากเจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอท กล่าว
          จีเอ็ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาจรายงานยอดขายที่ร่วงลง 29% ขณะที่ไครสเลอร์อาจมียอดขายทรุดฮวบลง 34% ส่วนฟอร์ด มอเตอร์อาจรายงานยอดขายที่ดิ่งลง 21%
          จอร์จ ไพพัส เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของฟอร์ดกล่าวว่า "ขณะนี้บริษัทกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากโดยจะเห็นได้ว่ายอดขายรถของฟอร์ดในมิชิแกนส่อเค้าว่าจะลดลงเช่นเดียวกับที่ดิ่งลง 15% ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา