รมว.พาณิชย์ สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกเร่งทำความเข้าใจต่างชาติหลังรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้กรมการค้าภายในทำแผนรองรับภาวะฉุกเฉินหากประชาชนแห่กักตุนสินค้า แต่เชื่อเหตุการณ์ไม่รุนแรงบานปลาย ด้านกรมส่งเสริมการส่งออกยันเหตุวุ่นวายไม่กระทบการส่งออกในระยะยาว แต่ลูกค้าใหม่อาจถูกบั่นทอนความเชื่อมั่นไปบ้าง
"รัฐบาลได้แจ้งให้คณะทูตานุทูตของไทยในต่างประเทศทำความเข้าใจเหตุการณ์ดังกล่าวกับประเทศต่างๆ แล้ว น่าจะมีความเข้าใจดีขึ้น ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ก็ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกทำความเข้าใจกับนักธุรกิจ ผู้ลงทุนต่างชาติ รวมทั้งผู้นำเข้าสินค้าไทย เพื่อไม่ให้วิตกกังวลจนเกินไปด้วย"นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของกรมการค้าภายในได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักตุนสินค้า
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว หากผู้ประกอบการ
และประชาชนแห่กักตุนสินค้า หรือมีพฤติกรรมฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาจนทำให้ตลาดปั่นป่วน จะบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ.2495 กำหนดเวลา สถานที่ และโควตาจำหน่ายสินค้า รวมถึงใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพิ่มการสำรองสต๊อกสินค้า หรือปันส่วนผู้ที่มีสต๊อกมากให้กับรายที่มีไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์รุนแรงมากจะสั่งห้ามส่งออกสินค้าที่มีปัญหา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ โดยสินค้าที่จะติดตามดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ ข้าว นม อาหารกึ่งสำเร็จรูปบรรจุภาชนะ(บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) น้ำมันพืช ผงชูรส และสินค้าขั้นพื้นฐาน เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก สี ยางรถยนต์ เป็นต้น
"ขณะนี้สถานการณ์สินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ เท่าที่ตรวจสอบยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่ามีปัญหาขาดแคลน กักตุน หรือโก่งราคาขาย แต่ต้องเตรียมแผนรองรับไว้ก่อน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ค้าภายในจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานชั่ง ตวง วัด ออกตรวจสอบสถานการณ์สินค้าตามจังหวัดต่างๆ แล้ว เพราะหากเกิดภาวะไม่ปกติจริงก็สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที โดยสถานการณ์ที่เรียกว่าไม่ปกตินั้น จะวัดจากความตื่นตระหนกของประชาชน ที่มีการแห่กักตุนสินค้า รวมถึงพ่อค้าด้วย" นายยรรยง กล่าว
ขณะที่ นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เชื่อว่า ความวุ่นวายทางการเมืองและการปิดท่าเรือจะไม่กระทบกับการค้า เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยผู้ผลิตผู้ส่งออกไทยยังสามารถทำการค้าขายได้ตามปกติ และไม่มีผลทำให้ต้องหยุดผลิตสินค้าและส่งออก
"ผู้ค้ารายเก่าที่ทำการค้ากับไทยมานานจะเข้าใจดี แต่ลูกค้าใหม่ยอมรับว่าคงกระทบบ้างก็ต้องเร่งทำให้เกิดความมั่นใจ โดยนอกจากแจ้งให้ทูตพาณิชย์สร้างความเข้าใจกับต่างประเทศแล้ว ยังได้แจ้งให้สมาคมการค้าต่างๆ ทำความเข้าใจกับลูกค้าตนเองด้วยเช่นกัน" นายราเชนทร์ กล่าว
สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าในไทยที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือน ก.ย.และ ต.ค.นี้คงจะมีขึ้นตามปกติ ทั้งงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ(บางกอกเจมส์) งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ และงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงผู้นำเข้า นักธุรกิจจากต่างประเทศ ยังคงยืนยันที่จะเข้าร่วมงานกับไทย
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--