สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อาจปรับตัวลดลงในปลายปีนี้หลังจากที่ดัชนี CPI ร่วงลงในเดือนก.ค. เนื่องจากราคาอาหารในประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาโลหะปรับตัวลดลง ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ในตลาดซื้อเนื้อสุกรที่ฟื้นตัวดีขึ้นจะเป็นพื้นฐานที่ช่วยให้ราคาอาหารมีเสถียรภาพ
โดยในเดือนก.ค.ดัชนี CPI ขยายตัวขึ้นในระดับ 6.3% ต่อปี ซึ่งลดลงจาก 7.1% ในเดือนมิ.ย. และ 7.7% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ราคาอาหารในเดือนก.ค.ไต่ระดับขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับระดับที่พุ่งขึ้น 17.3% ในเดือนมิ.ย. ส่วนราคาเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกในช่วงเวลาดังกล่าวขยับขึ้น 0.7% จากเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ปรับตัวลดลงแตะที่ 115 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับสูงสุดที่ 145 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม NBS มองว่าตลาดน้ำมันยังคงมีปัจจัยที่รุนแรงที่อาจกระตุ้นให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้ พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวแนะให้รัฐบาลสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งปรับกลไกกำหนดราคาทรัพยากรธรรมชาติในเวลาที่เหมาะสม สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--