สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสองของออสเตรเลีย ขยายตัวเพียง 0.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะขยายตัว 0.4% เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันให้ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
คลิฟฟอร์ด เบนเน็ตต์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท Sonray Capital Markets Ltd.ในซิดนีย์กล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง รวมทั้งความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ถดถอยลง และตลาดหุ้นออสเตรเลียที่ร่วงลงอย่างหนัก ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ให้นายเกลน สตีเฟ่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้
"การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำให้ออสเตรเลียเผชิญความเสี่ยงที่เศรษฐกิจถดถอย แต่เรายังโชคดีที่เศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่งเพราะจีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่สุดของเรา หากภาคส่งออกของเราชะงักงัน ตัวเลขจีดีพีอาจออกมาเป็นลบ" เบนเน็ตต์กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภายหลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียประกาศตัวเลขจีดีพีในวันนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียก็ร่วงลงแตะระดับ 82.98 เซนต์สหรัฐ จากระดับก่อนที่จะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ระดับ 83.20 เซนต์สหรัฐ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--