ผู้ว่าธปท.เชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งพอรองรับปัญหาการเมืองได้

          นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ขณะนี้ ธปท.ยังไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจจากที่คาดไว้ปีนี้ที่ 4.5-5.8% โดยยอมรับว่าเหตุการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันปัจจัยภายนอกยังสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยเช่นกัน
          ทั้งนี้เชื่อว่าจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแกร่ง จะสามารถรับมือกับปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความมั่นคงทั้งด้านฐานะการคลัง ฐานะต่างประเทศ และสถาบันการเงินที่มีความแข็งแกร่ง
          อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อความมั่นใจทั้งของประชาชนที่มีผลต่อการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วจะเป็นผลดี
          "เศรษฐกิจยังอยู่ได้ เห็นว่าครึ่งปีแรกเศรษฐกิจโต 5.7% ถือว่ายังใช้ได้ และขณะนี้เงินเฟ้อปรับลดลง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง และรัฐบาลมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจชะลอตัวลงบ้าง ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง" นางธาริษา ระบุ
          ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อแผนการลงทุนภาครัฐ ซึ่งเห็นได้ว่าการลงทุนภาครัฐที่ได้อนุมัติงบประมาณไปแล้วยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ไตรมาส 2/51 การใช้จ่ายภาครัฐจะชะลอตัวลงเล็กน้อยเพราะเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อสูง จึงกระทบต่อการลงทุนที่เกี่ยวกับภาคการก่อสร้าง แต่ขณะนี้พบว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับลดลงแล้ว
          อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินนั้น ธปท.จะพิจารณาทั้งความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อ และความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ขณะนี้จึงถือว่าเร็วเกินไปที่จะทบทวนเป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจ 
          แต่ยอมรับว่าขณะนี้ ธปท.ให้ความสำคัญในการดูแลเงินเฟ้อให้เป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้ แม้อัตราเงินเฟ้อได้เริ่มปรับลดลงแล้ว แต่ความเสี่ยงยังไม่หมด เพราะเงินเฟ้อที่ลดลงมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าราคาน้ำมันจะลดลงอย่างยั่งยืนหรือไม่ นอกจากนี้เงินเฟ้อที่ลดลงยังมีผลจาก 6 มาตรการ 6 เดือนของรัฐบาลที่เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากสิ้นสุดมาตรการแล้วอาจทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไป
          "ตอนนี้ความเสี่ยงลดลง แต่ไม่ได้หมดไป ดังนั้นเกี่ยวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคต จะต้องมีความระมัดระวัง ส่วนการเติบโตเศรษฐกิจมีความเสี่ยงมากขึ้นจากเรื่องการเมืองในประเทศ แต่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ตัวเลขอาจจะดีกว่าที่คาด อาจจะนำไปสู่เรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ต้องระวัง รวมไปถึงความต้องการสินค้าส่งออก" ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุ