สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์ ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษจะประกาศนโยบายดอกเบี้ยในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารทั้งสองแห่งจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
โดยเมื่อวานนี้ เงินดอลลาร์ไต่ระดับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.7667 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินปอนด์สเตอริง และพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโรจากสัญญาณบ่งชี้ที่ว่า ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจกำลังลุกลามไปทั่วโลกไม่เฉพาะกับสหรัฐเท่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนเริ่มเบี่ยงเบนความสนใจจากเศรษฐกิจสหรัฐไปที่เศรษฐกิจประเทศอื่นๆ เช่น ยุโรป หรืออสเตรเลียแทน
อย่างไรก็ตาม ในเช้าวันนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 1.4514 ต่อยูโร ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 81.87 ต่อเพนซ์
ขณะที่เงินปอนด์สเตอริงทรงตัวที่ระดับ 1.7753 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และอ่อนค่าลงหนักสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนโดยดิ่งลงไปเฉียดระดับ 191.75 ต่อเยน
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมาแม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในรูปสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้นักลงทุนนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ว่านักลงทุนจะชะลอการทำธุรกรรม carry trade ในการกู้ยืมสกุลเงินที่ให้อัตราตอบแทนต่ำไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงในระยะนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--