นายอมันโด เททังโก ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์กล่าวว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของฟิลิปปินส์อาจได้รับผลกระทบจากการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่มองว่าสกุลเงินเปโซที่กำลังอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 นั้น จะดีดขึ้นแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
"การประเมินราคาทองครั้งใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของมูลค่าทองคำและอัตราแลกเปลี่ยน" นายเททังโกกล่าว "ภาวะดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อทุนสำรองเงินตราต่างประเทศก็เป็นได้"
"เราคาดว่าเงินเปโซจะแข็งค่าขึ้นในไตรมาสที่สี่ จากการส่งเงินกลับประเทศ และอานิสงส์ของความต้องการภาคธุรกิจ เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ฟิลิปปินส์นำเข้าสินค้า ขณะที่เงินดอลลาร์มีแรงซื้อเข้ามามากเกินไป"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ซึ่งนำมาใช้ในการชำระหนี้ต่างประเทศและใช้จ่ายในการนำเข้าสินค้ารวมถึงเป็นเครื่องมือในการควบคุมการเคลื่อนไหวของค่าเงินนั้นพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าในรอบ 2 ปีครึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค.จากยอดการส่งเงินของชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในต่างประเทศ โดยยอดส่งเงินกลับเข้าประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 17.2% แตะที่ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
"เรายังคงมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น แต่สิ่งที่เราต้องทำในขณะนี้คือพยายามลดความผันผวนหรือควบคุมให้ค่าเงินแกว่งตัวน้อยที่สุด" นายเททังโกกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:24 น.ตามเวลาท้องถิ่น เงินเปโซอ่อนค่าลง 0.6% แตะที่ 46.805 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยในสัปดาห์นี้เงินเปโซอ่อนค่าลงไปแล้ว 1.9%
ทั้งนี้ สัญญาทองคำล่วงหน้าร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ จนทำให้ตลาดซื้อขายโลหะมีค่ากลายเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--