อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นว่า สภาคองเกรสสหรัฐควรให้สิทธิอำนาจมากขึ้นแก่รัฐบาล ในการจัดการกับบริษัทที่มีปัญหา ทั้งนี้ก็เพื่อลดผลกระทบของกลุ่มผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน และกล่าวว่าสภาคองเกรสไม่ควรมองว่าเฟดเป็นผู้วิเศษที่สามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ได้ทุกด้าน
"สภาคองเกรสควรให้สิทธิอำนาจแก่รัฐบาลในการจัดการกับบริษัทที่มีปัญหา ไม่ใช่ผลักภาระดังกล่าวให้เฟดเพียงอย่างเดียว คณะทำงานด้านการเงินควรได้รับสิทธิอำนาจมากขึ้นในการแก้ไขปัญหานี้ และหากพบว่าบริษัทที่ส่อเค้าล้มละลายกำลังส่งผลคุกคามเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ก็ควรสั่งปิดบริษัทเหล่านั้นเสีย เราต้องการกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงและสามารถจำกัดความเสียหายได้ ซึ่งข้อกฎหมายจะครอบคลุมถึงการให้สิทธิแก่กระทรวงการคลังในการใช้เงินภาษีราษฎรกอบกู้ระบบการเงินให้มีความโปร่งใส เหมือนกับที่เราดำเนินการกับวาณิชธนกิจแบร์ สเติร์นส์" กรีนสแปนกล่าว
กรีนสแปนกล่าวว่า เขาจะรู้สึกกังวลหากสภาคองเกรสมองว่าเฟดเป็นผู้วิเศษที่สามารถแก้ปัญหาได้รอบด้าน อีกทั้งกล่าวว่าที่ผ่านมานั้นสหรัฐละเลยและคาดหวังเพียงว่าจะให้วิกฤตการณ์ต่างๆคลี่คลายด้วยกลไกตลาดเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เขายังข้องใจในท่าทีของนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ ที่ต้องการให้เฟดเข้าคลี่คลายสถานการณ์การเงินแทบจะทุกครั้ง รวมถึงแสดงความรับผิดชอบต่อเสถียรภาพด้านการเงิน
ก่อนหน้านี้ กรีนสแปนเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังถูกคุกคามจากเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าภาวะฟองสบู่ โดยเขากล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง สถานการณ์เช่นนี้กำลังคุกคามเศรษฐกิจของชาติรุนแรงกว่าภาวะฟองสบู่ ผมไม่คิดว่าภาวะฟองสบู่จะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐนานนัก แต่เงินเฟ้อต่างหากที่จะบั่นทอนเศรษฐกิจไปอีกนาน"
"ผมเชื่อว่าธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายอย่างเดียวกัน นั่นคือ เงินเฟ้อ แต่การที่ธนาคารกลางจะควบคุมเงินเฟ้อได้ดีเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายการเงินของประเทศนั้น เงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นอีก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรค่าเงิน" กรีนสแปนกล่าว
กรีนสแปน วัย 82 ปี เป็นประธานเฟดตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2530 และครบวาระการดำเนินตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.2549 นับจากนั้น กรีนสแปนได้ให้เกียรติเดินทางไปกล่าวปาฐกถาและให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจตามสถาบันต่างๆ อีกทั้งเขียนหนังสือและเป็นประธานให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าของสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึง ดอยช์แบงค์ โดยหนังสือเรื่อง "The Age of Turbulence : Adventures in a New World" เวอร์ชั่นล่าสุดที่พูดถึงวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนส.ค.ปีนี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--