"ซัมซุง" เล็งทุ่ม 3 พันล้านดอลลาร์ซื้อกิจการ "แซนดิสก์"จากสหรัฐ

          ซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ กล่าวว่าบริษัทอาจเข้าซื้อกิจการของแซนดิสก์ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตเมมโมรี่การ์ดของสหรัฐ ในราคาตามมูลค่าตลาดที่ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดโดยบริษัทของเกาหลีใต้
          เจมส์ ชุง โฆษกของซัมซุง ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับสองของโลก กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาโอกาสต่างๆ เกี่ยวกับแซนดิสก์ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจ ขณะที่หนังสือพิมพ์ออนไลน์ อีเดลี่ ของเกาหลีใต้ รายงานในวันนี้ว่า ซัมซุงได้ว่าจ้างเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ให้มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องการซื้อกิจการในครั้งนี้ โดยอ้างแหล่งข่าวเป็นเจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และนักการธนาคารที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเทคโอเวอร์ดังกล่าวอาจช่วยให้ซัมซุงขยับนำ โตชิบา คอร์ป คู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นออกไปอีกในตลาดชิปสำหรับจัดเก็บข้อมูลในกล้องถ่ายรูปและเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาซึ่งมีมูลค่าราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ปัจจุบัน บรรดาผู้ผลิตชิปได้รับแรงกดดันในการควบรวมกิจการ หลังจากที่ราคาสินค้าลดลงถึงครึ่งหนึ่งในปีนี้ ส่งผลให้แซนดิสก์ประสบภาวะขาดทุนรายไตรมาสครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 7 ปี
          "บริษัทขนาดเล็กกว่าไม่สามารถยืนอยู่ได้อีกต่อไป" ชาง อิน วาน ซีอีโอของเคทีบี แอสเซ็ท เมเนจเมนท์ ในกรุงโซล กล่าว "ถ้าบริษัทเล็กๆเหล่านี้สามารถผนวกรวมเข้ากับบริษัทที่ใหญ่กว่าได้ ก็จะช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถควบคุมการผลิตได้ง่ายขึ้น"
          ทั้งนี้ หุ้นของซัมซุงพุ่งขึ้นสูงถึง 4.3% แตะ 536,000 วอน ณ เวลา 14.23 น.ในการซื้อขายในตลาดหุ้นโซล สวนทางกับหุ้นอื่นๆทั่วเอเชียที่ร่วงลง
          ขณะที่หุ้นแซนดิสก์ ซึ่งบริษัทไอซัพพลาย คอร์ป คาดการณ์ว่า จะกลายเป็นผู้ซื้อ NAND flash chips รายใหญ่สุดของโลก ได้ปรับตัวลงไปแล้วถึง 59% ในการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปีนี้ อันเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและจากการลดราคาผลิตภัณฑ์ โดยในเดือนก.ค. บริษัทรายงานผลประกอบการขาดทุน 67.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนมากที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544