กูรูตลาดอสังหาฯเชื่อแผนอุ้มแฟนนี-เฟรดดี ช่วยสร้างเสถียรภาพในตลาดปล่อยกู้จำนอง

ข่าวต่างประเทศ Monday September 8, 2008 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บรรดานักวิเคระห์หลายท่านได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องการอุ้มธุรกิจแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ของรัฐบาลสหรัฐว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ซื้อบ้าน และเจ้าของบ้านบางรายที่หวังจะทำการรีไฟแนนซ์ เพื่อขอกู้เงินในธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปผ่อนชำระกับธนาคารที่ตนกู้อยู่ในขณะนี้
"ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพในตลาดปล่อยกู้จำนอง หลังจากที่ตลาดไร้เสถียรภาพมานาน 2 ปี" ริช คอสเนอร์ ประธานบริษัท Prudential California Realty กล่าว "แต่ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลดีต่อผู้กู้จำนองบ้านทุกราย"
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในตลาดปล่อยกู้จำนอง โดยบริษัทเป็นผู้ออกเงินกู้จากธนาคารเพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์สำหรับถือครองหรือเทขายให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งทำให้ผู้ปล่อยกู้อย่างแบงก์ ออฟ อเมริกา และ เวลล์ ฟาร์โก ปล่อยเงินกู้ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในกระบวนการเข้าครอบครองกิจการของแฟนนี เม และเฟรดดี แมคในครั้งนี้ รัฐบาลให้สัญญาแก่นักลงทุนว่า หนี้ของบริษัทเป็นหนี้ที่ปลอดความเสี่ยง
ด้านเกร็ก แมคไบรด์ นักวิเคราะห์จาก Bankrate.com กล่าวว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วในการซื้อกิจการบริษัททั้งสอง ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากอัตราปล่อยกู้ในระดับต่ำจะช่วยดึงดูดความสนใจให้ประชาชนต้องการลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้นและจะช่วยกระตุ้นให้ราคาบ้านสูงขึ้นตามมา โดยเขาคาดว่าอัตราเงินกู้จำนองบ้านที่คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นเวลา 30 ปีจะร่วงลงจากอัตราเฉลี่ยที่ 6.35% ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปฏิเสธที่จะคาดว่า อัตราปล่อยกู้จำนองจะได้รับผลกระทบจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน แต่กล่าวว่า การดำเนินกิจการภายใต้การดูแลของรัฐบาลจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างเต็มที่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ