เยนแข็งเทียบยูโรที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ ขณะนลท.หวั่นวิกฤตสินเชื่อส่อเค้ารุนแรง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 10, 2008 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (10 ก.ย.) จากกระแสความกังวลที่ว่า วิกฤตการณ์เลวร้ายในตลาดสินเชื่อจะขยายวงกว้างลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นๆมากขึ้น ซึ่งภาวะดังกล่าวได้กดดันให้นักลงทุนลดสัดส่วนการถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เพื่อไปซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินเยนแทน
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งร่วงลงหลังจากที่มีข่าวว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเกาหลี (เคดีบี) ไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันและทองคำที่ปรับตัวลดลงบดบังแนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์
"มีแนวโน้มว่าเงินเยนกำลังได้รับปัจจัยหนุนที่ดีในขณะนี้" เท็ตซึมุ โซมะ ดีลเลอร์จากบล. Okasan Securities Co. ในโตเกียวกล่าว "หากสถาบันการเงินชื่อดังอย่างเลห์แมน บราเธอร์สกำลังประสบปัญหาในการหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ ธนาคารอื่นๆก็อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกัน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ไม่มีใครต้องการเข้าทำธุรกรรม carry trade เพื่อถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08.40 น. ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะที่ 151.09 ต่อยูโรจากระดับ 150.94 ต่อยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งนายโซมะคาดว่า ในวันนี้เงินเยนอาจเคลื่อนไหวแตะที่ 150.70 ต่อยูโร เละเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์พบว่า เงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 107.12 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 106.81 ต่อดอลลาร์
ขณะที่เงินยูโรเทรดกันที่ 1.4106 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4135 ดอลลาร์ต่อยูโร
ด้านสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 79.83 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นระดับต่ำกว่า 80 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.2550 จากระดับปิดเมื่อคืนนี้ที่ 81.39 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 4 ของประเทศร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ