เควิน ไหล นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสถาบันวิจัยไดวา กล่าวว่า ปัญหาเงินเฟ้อของจีนยังไม่ได้รับการแก้ไขให้หมดไปโดยสิ้นเชิง จีนคงจะต้องยอมเสียสละเรื่องอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเล็กน้อย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อของประเทศจะไม่ดีดตัวขึ้นมาอีก
เงินเฟ้อของจีนชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2550 เนื่องจากราคาอาหารที่ดีดตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้นั้นได้ปรับตัวลง ส่งผลให้ธนาคารกลางจีนมีโอกาสที่จะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนขยายตัว 4.9% ในเดือนส.ค.จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นและคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 5.4%
ไหลกล่าวว่า จีนอาจจะใช้วิธีการลดภาษี การแข็งค่าแบบค่อยเป็นค่อยไปของเงินหยวน และการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการปล่อยเงินกู้เพื่อคุ้มครองแรงงาน และการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร่วงลงเพราะความต้องการที่ลดลง เงินเฟ้อจากราคาผู้ผลิตที่ขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 นั้น ส่งสัญญาณว่า ผู้บริหารระดับนโยบายจำเป็นต้องใช้มาตรการอย่างสมดุลเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่จะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
เงินหยวนร่วงลงมาอยู่ที่ 6.8405 หยวนต่อดอลลาร์ เมื่อเวลา 10.12 น.ตามเวลาในเซี่ยงไฮ้ หลังจากปิดที่ 6.8381 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวานนี้
ราคาอาหารในจีนเพิ่มขึ้น 10.3% ในเดือนส.ค. จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 14.4% ในเดือนก.ค. ส่วนราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้น 2.1%
คาร์ล ไวน์เบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไฮ ฟรีเควนซี อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า เงินเฟ้อในจีนอาจจะตกลงอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางจีนอาจจะผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆด้านการเงินในขณะนี้ เพื่อชดเชยกับสถานการณ์ที่อาจจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง
การขยายตัวในภาคโรงงานและการใช้งบประมาณด้านอสังหาฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยผลักดันหลักของเศรษฐกิจจีน ยังคงอยู่ในระดับเดิมในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--