นพ.สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวยอมรับว่า ปัญหาทางการเมืองในขณะนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวขอองเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง และจะทำให้ทั้งปีเศรษฐกิจอาจเติบโตไม่ถึง 6% ตามเป้าหมาย
สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่สามารถคลี่คลายลงได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แล้ว และรัฐบาลไม่สามาถรแก้ปัญหาได้เพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องการเรียกร้องให้คนไทยทุกคนที่ต้องการเห็นบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ มีกฎกติกาให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งประชาชน และต่างชาติ มีความมั่นใจและกลับมายอมรับในสังคมไทย ดังนั้นจึงต้องการให้ประชาชนและสังคมมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในการแสดงความคิดเห็น
นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นหากยังยืดเยื้อต่อไปย่อมกระทบต่อการลงทุนอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวได้จากความเชื่อมั่นและการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้นตามการลงทุนของภาครัฐในโครงการเมกะโปรเจ็คต์ แต่ขณะนี้ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นได้กระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน ดังนั้น เศรษฐกิจทั้งปีอาจจะขยายไม่ได้ 6% แล้ว
"ตอนนี้ความเห็น(การเมือง)อยู่กับกลุ่มผู้มีโอกาสพูดกับสื่อเท่านั้น แต่คนไทยส่วนใหญ่มีโอกาสน้อยที่จะพูด ซึ่งการลงประชามติเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะให้ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่และเป็นการแสดงออกให้เกิดพลัง"นพ.สุรพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การลงประชามติและการยุบสภายังไม่ใช่ทางออก หากยังมีการชุมนุมและมีกลุ่มผู้ไม่ยอมรับ เพราะเห็นได้ว่าแกนนำผู้ชุมนุมยังออกมาแสดงความคิดเห็นไม่สนับสนุนทั้งการยุบสภาหรือการลงประชามติ ซึ่งขณะนี้ผู้ชุมนุมไม่มีเป้าหมายในการชุมนุม
ส่วนการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ประกาศยกเลิก แต่จะขอรอดูสถานการณ์ก่อน
"ยังไม่ใช่ 1-2 วันนี้ หรือเร็วๆ นี้ที่จะมีการยกเลิก(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ขึ้นกับสถานการณ์ หากความกังวลเรื่องความเผชิญหน้าและการใช้ความรุนแรงลดลงก็จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ ขณะนี้การจะยกเลิกขึ้นกับรองนายกฯ สมชาย" นพ.สุรพงษ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--