เวิลด์แบงก์เลื่อนไทยน่าลงทุนขึ้นอับดับ 13 ของโลกใน Doing Business 2009

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 10, 2008 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางริต้า รามัลโล เศรษฐกร ธนาคารโลก เปิดเผยว่า ในรายงาน“ Doing Business 2009"ของธนาคารโลกได้เลื่อนอันดับความน่าลงทุนของไทยขึ้นเป็นอันดับที่ 13 จากอันดับที่ 19 ในรายงานฉบับก่อน จากประเทศที่ทำการสำรวจทั้งสิ้น 181 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในรายงานดังกล่าวไม่ได้นำปัญหาความมั่งคงการเมืองรวมถึงความวุ่นวายทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาวิเคราะห์ด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนในไทยก็ได้
ทางด้านน.ส.กิริฎา เภาพิจิตร เศรษฐกร ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า อันดับที่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นผลจากการปรับปรุงกฎระเบียนและมาตรการต่างที่เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เช่น การลดค่าธรรมเนียมและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารชำระภาษีทางอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งเป็นการลดภาระด้านภาษีและการทำธุรกรรมให้แก่ผู้ประกอบการ
การยกเว้นภาษีเงินได้แก่วิสาหกิจที่มีรายได้จากการดำเนินงานไม่เกิน 1,200,000 บาท การแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อพิทักษ์และปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นรายย่อย รวมทั้งการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์และการผ่านพิธีการสินค้าเข้า-ออกด้วยระบบอิเล็คโทรนิคส์
สำหรับปัญหาความวุ่นวายการเมืองขณะนี้ น.ส.กิริฎา กล่าวว่า หากเป็นสถานการณ์ระยะสั้นและจบโดยเร็วก็จะกระทบต่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ไม่กระทบต่อการลงทุนทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนมักจะมองพื้นฐานและศักยภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาวมากกว่า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ปัจจุบันยังคงเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีคงไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติไปมากนัก ถ้านโยบายหลักของประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
“ไม่ว่าใครจะเป็นนายกแต่หากมาจากการเลือกตั้งก็มักจะได้รับการยอมรับเสมอและการลงทุนจะกลับมา แต่ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารโลกสำนักงานใหญ่ก็สอบถามปัญหาการเมืองขณะนี้เช่นกัน เพราะข่าวที่ออกไปค่อนข้างหน้ากลัว แต่เราก็บอกไปว่าธุรกิจต่างๆยังดำเนินต่อไปได้" น.ส.กิริฎาระบุ
ทั้งนี้ ธนาคารโลกจะมีการประเมินภาวะการขยายตัวเศรษฐกิจไทยประจำปี 51 ใหม่ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะนำปัญหาความไม่สงบการเมืองเข้าไปพิจารณาด้วย โดยเฉพาะผลกระทบด้านการท่องเที่ยว การบริโภคภาคครัวเรือน เพราะปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าการประเมินครั้งก่อนในเดือน เม.ย.ซึ่งครั้งนั้นให้การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 5%

แท็ก ธนาคารโลก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ