ฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้จากปัจจุบันที่ซบเซาอย่างหนัก พร้อมกับยืนยันว่าการควบคุมเงินเฟ้อยังคงเป็นเป้าหมายหลักของธนาคาร
"การขยายตัวที่อ่อนแอในปัจจุบันจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น" ทริเชต์กล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติในที่ประชุมรัฐสภายุโรปในกรุงบรัสเซล์วันนี้ "อีซีบีมุ่งมั่นที่จะคงระดับคาดการณ์เงินเฟ้อระยะกลางและระยะยาวให้สอดคล้องกับเสถียรภาพของราคา
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้กำหนดนโยบายยังคงวิตกว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจะทำให้บริษัทต่างๆขึ้นราคา รวมถึงผลักดันให้ลูกจ้างเรียกร้องขอขึ้นค่าจ้างเพื่อชดเชยค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อีซีบีได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.8% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารเกือบสองเท่า แต่ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรก็กำลังฝ่าฟันปัญหาต่างๆเพื่อฟื้นตัวขึ้นจากที่หดตัวลงในไตรมาสสอง
ทริเชต์กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ร่วงลงไป 28% หลังจากระดับที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค. จะช่วยหนุนรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (Disposable Income) ให้แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันที่ระดับราว 104 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันนี้ จะยังคงแพงกว่าระดับราคาเมื่อสองปีก่อนก็ตาม
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายรู้สึกวิตกมากว่า ราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่การเกิดวิกฤติรอบสองในวงกว้างได้" ทริเชต์กล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--