จีนเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ขยายตัว 23.2% หลังการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

          สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ยอดขายปลีกในเดือนส.ค.ขยายตัว 23.2% แตะ 8.76 แสนล้านหยวน หรือ 1.28 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่อยู่ในระดับที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 9 ปี เนื่องจากรายได้ที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค
          สถิติดังกล่าวอยู่ต่ำกว่า ตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่า จะอยู่ที่ 23% โดยสถิติการขยายตัวเมื่อเดือนก.ค.นั้นขยายตัว 23.3%
          การบริโภคภายในประเทศอาจจะช่วยหนุนเศรษฐกิจจีน หลังจากที่การส่งออกชะลอตัวเพราะความต้องการในต่างประเทศที่อ่อนตัว บริษัท โคคา-โคล่า ซึ่งตกลงที่จะซื้อกิจการบริษัท ไชน่า ฮอยหยวน จูซ กรุ๊ป เป็เงิน 2.3 พันล้านดอลลาร์นั้น เป็นหนึ่งในบริษัทต่างประเทศที่ต้องการชิงส่วนแบ่งตลาดหลังจากที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนสูงขึ้นอันเนื่องมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
          ชู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง กล่าวว่า ความต้องการภายในประเทศที่ทรงตัวจะช่วยรองรับผลกระทบอันเนื่องมาจากการส่งออกที่ชะลอตัว
          เงินหยวนซื้อขายที่ระดับ 6.8448 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อเวลา 10.10 น.ตามเวลาในเซี่ยงไฮ้ เปรียบเทียบกับเมื่อวานนี้ที่ 6.8465 หยวนต่อดอลลาร์
          ยอดขายเสื้อผ้าของจีนในเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 29.5% จากระดับปีที่แล้ว และการใช้จ่ายด้านเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และไข่ ทะยานขึ้น 26.7% ส่วนยอดขายอัญมณี ทะยาน 44.3%
          ทั้งนี้ รายได้ภาคครัวเรือนในเมืองเพิ่มขึ้น 14.4% แตะ 8,065 หยวนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จากระดับปีที่แล้ว ส่วนรายได้ในชนบทเพิ่มขึ้น 19.8% แตะ 2,528 หยวน