นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน กทม. ว่า เหมาะสมและจะส่งผลดีต่อทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยว นักลงทุน ขณะเดียวกันภาคเอกชนยังไม่มีความแน่ใจว่า จะเกิดการยุบพรรคการเมือง หรือยุบสภา เมื่อใด อาจเป็น 2-3 เดือน หลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติจะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการให้สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองจบโดยเร็ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาดูแลแก้ไขสถานการณ์
ทั้งนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี คงพิจารณาความเหมาะสมแล้วและ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้ส่งสัญญาณว่าควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว การยกเลิกในวันนี้จะช่วยให้หลายฝ่ายสบายใจ ในส่วนของ ส.อ.ท.จะให้ทางสมาชิกแจ้งไปยังลูกค้าและพันธมิตรในต่างประเทศทราบว่าประเทศไทยได้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว
นอกจากนี้ ทูตไทยและทูตพาณิชย์ตลอดจนหน่วยงานของไทยในต่างประเทศต้องประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ต่างประเทศทราบถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศว่าสถานการณ์ได้สงบเรียบร้อยแล้ว และเมื่อมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่สถานการณ์ก็จะยิ่งดีขึ้น เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจกลับเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุน ตลอดจนเข้ามาจัดงานสัมมนาต่าง ๆ จากที่ได้ยกเลิกไปในขณะนี้
นายสันติ กล่าวถึงการที่มีแนวโน้มว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นบุคคลที่มาจากพรรคพลังประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการเรื่องใด โดยเป็นนโยบายเร่งด่วนและนโยบายอื่น ๆ พร้อมกันนี้จะต้องเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดความสงบภายในประเทศโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าฝ่ายพันธมิตรฯ จะไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคพลังประชาชน และการชุมนุมก็ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่เป็นการชุมนุมอย่างสงบ
ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--