แบงค์ออฟอเมริกาเผยตกลงเรื่องซื้อกิจการเมอร์ริลลินช์มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลล์

          แบงค์ ออฟ อเมริกาได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกิจการของเมอร์ริล ลินช์แล้ว ด้วยมูลค่าประมาณ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่หุ้นของบล.รายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐร่วงลงมากกว่า 35% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกิจการของคู่แข่งรายเล็กกว่าอย่างเลห์แมน บราเธอร์สเกือบจะล้มละลาย
          วอลล์ สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะกรรมการบริหารของเมอร์ริล ลินช์ และแบงค์ ออฟ อเมริกาได้อนุมัติเรื่องการซื้อการเมื่อช่วงเย็นวานนี้
          บลูมเบิร์กรายงานว่า การเจรจาเกี่ยวกับการซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แบงค์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด บาร์เคลย์ส ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ ได้ยกเลิกการเจรจาเพื่อซื้อกิจการของเลห์แมนไปก่อนหน้านี้
          แบงค์ ออฟ อเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้รักษาอันดับความน่าเชื่อถือไว้ได้ที่ AA เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่นๆของสหรัฐและ เมอร์ริล ลินช์นั้น ถูกลดอันดับลง โดยหุ้นของเมอร์ริล ลินช์ ร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่นักวิเคราะห์ของอ็อพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค คาดการณ์ว่า เมอร์ริล ลินช์ จะขาดทุนถึง 6.87 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนได้คาดการณ์ว่า เมอร์ริล ลินช์ และเลห์แมน จะล่มสลายลงไปด้วยกัน
          ริชาร์ด โบฟ นักวิเคราะห์ของลาเดนเบิร์ก ทัลแมน แอนด์ โค กล่าวว่า การควบกิจการระหว่างเมอร์ริล และแบงค์ ออฟ อเมริกานั้นเป็นแนวคิดที่ดี หากเลห์แมนล่มสลาย ธนาคารที่จะตกอยู่ในวงจรวิกฤตรายต่อไปคือ เมอร์ริลที่กำลังพยายามเอาตัวรอดด้วยการควบกิจการกับแบงค์ ออฟ อเมริกา
          เจสสิก้า อ็อพเพนไฮม์ โฆษกของเมอร์ริล ลินช์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าว ทางด้านบ็อบ สติคเลอร์ โฆษกของแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า เราจะไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องการคาดการณ์ใดๆ
          จอห์น เทน ซีอีโอของเมอร์ริล ลินช์ ใช้เวลาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไปกับการประชุมร่วมกับธนาคารกลางสหรัฐสาขานิวยอร์กเพื่อเจรจาเรื่องวิธีการกูวิกฤตเลห์แมน ขณะที่นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และประธานเฟดสาขานิวยอร์กก็ได้เรียกผู้บริหารเข้าร่วมประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน