นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปริมาณการขายรถยนต์ในเดือน ส.ค.51 ลดลง 13.0% อยู่ที่ 47,130 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 17,991 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 29,139 คัน ลดลง 25.7% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตันในเซกเมนท์นี้จำนวน 24,739 คัน ลดลง 28.6%
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลง 25.7% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตันในเซ็กเมนท์นี้ที่ลดลงถึง 28.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ดีตลาดรถยนต์นั่งที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 20.3% ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับลดราคาลงถึง 7 ครั้ง เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดรวมไม่ลดลงไปมาก
ขณะที่ ทางด้านสถิติการขายสะสม 8 เดือนของปี 2551(ม.ค.-ส.ค.) มีปริมาณทั้งสิ้น 413,377 คัน เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 147,690 คัน เพิ่มขึ้น 30.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 265,687 คัน ลดลง 6.6% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตันในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 227,917 คัน ลดลง 8.7% เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30.2% เนื่องจากความนิยมที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีต่อรถยนต์รุ่นใหม่ อาทิ โคโรลล่า อัลติส และ ฮอนด้า แจ๊ส ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์นั่ง ส่วนตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตลดลง 6.6% รวมถึงตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตลดลง 8.7%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการขายในเดือนกันยายนจะทรงตัว แม้ว่าตามสถิติการขายแล้วเดือนกันยายนจะมียอดขายมากที่สุดในไตรมาส 3 ประกอบกับมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด อาทิ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่, โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ใหม่, ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รวมถึงแคมเปญพิเศษต่างๆ อีกมายมายจากหลายค่ายน่าจะส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์เดือนกันยายน แต่ทั้งนี้สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและส่งผลต่อตลาดรถยนต์ได้
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--