ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์ หลังถูกกดดันจากข่าว"เลห์แมน"ยื่นขอคุ้มครองล้มละลาย

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เยน และปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 500 จุด
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับ 104.86 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 107.92 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลงแตะระดับ 1.1090 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1303 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4311 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4227 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.8022 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7945 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.6601 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.6677 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.8073 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8235 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
          โยเซฟ เทรวิซานี นักวิเคราะห์จาก FXSolutions กล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคการเงินของสหรัฐ รวมถึงข่าวที่เลห์แมน บราเธอร์ส ยื่นขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลาย ข่าวดังกล่าวสร้างความโกลาหลไปทั่วตลาด รวมถึงตลาดในเอเชียและตลาดยุโรป"
          เมื่อวานนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกเมื่อมีรายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยืนยันว่า บริษัทได้ยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารบาร์เคลย์ส ปฏิเสธที่จะเข้าซื้อกิจการเลห์แมน บราเธอร์ส ซึ่งธุรกิจที่ยื่นฟ้องขอพิทักษ์การล้มละลายครั้งนี้เป็นธุรกิจโฮลดิ้ง และไม่ครอบคลุมถึงบริษัทในเครือ
          ขณะที่ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) ขอเงินกู้โดยตรงจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทก็กำลังพยายามที่จะขายสินทรัพย์บางส่วน นอกจากนี้ AIG ยังหาทางระดมทุนโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทต่างๆ อาทิ Kohlberg Kravis Roberts & Co. และ J.C. Flowers & Co เพื่อหวังประคับประคองบริษัทให้รอดพ้นจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
          นอกจากนี้ เมอร์ริล ลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ตกลงควบรวมกิจการและขายหุ้นให้กับแบงก์ ออฟ อเมริกา โดยแบงค์ ออฟ อเมริกา เข้าซื้อหุ้นสามัญของเมอร์ริล ลินช์ มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมทั้งซื้อออปชัน หุ้นแปลงสภาพ และหน่วยหุ้น RSU (restricted stock  units) เป็นมูลค่ารวมกันอีก 6 พันล้านดอลลาร์
          "ข่าวความเคลื่อนไหวในด้านลบของเลห์แมน บราเธอร์ส, เมอร์ริล ลินช์ และ AIG สร้างแรงกดดันในตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงเอเชีย นักลงทุนจำนวนมากวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟดได้แสดงความเห็นว่าอาจมีสถาบันการเงินล้มละลายอีก" เทรวิซานีกล่าว
          อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นในรายการ "This Week with George Stephanopoulos" ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า "วิกฤตการณ์ด้านการเงินในสหรัฐที่เริ่มต้นจากปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์) เมื่อปีที่แล้วนั้น อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีสถาบันการเงินล้มละลายอีกหลายแห่ง ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเลห์แมน บราเธอร์สในขณะนี้นั้น รัฐบาลสหรัฐควรดำเนินมาตรการอย่างรอบคอบในการรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้นกับเลห์แมน บราเธอร์ส และรัฐบาลไม่ควรเข้าไปพยุงหรือช่วยเหลือทั้งหมด"