ธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

          ธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (1.44 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบครั้งใหญ่ หลังเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ ประสบภาวะล้มละลาย นับเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. และเป็นเม็ดอัดฉีดเงินมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. ซึ่งตอนนั้นธนาคารกลางอัดฉีดไป 3 ล้านล้านเยน
          "ตลาดเริ่มทวีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของสินเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ" ชิน นากาอิ กรรมการผู้จัดการ ABN Amro Bank NV ในโตเกียว กล่าว "ตอนนี้สินเชื่อกำลังอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างหนัก'' 
          มาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า ทางธนาคารพร้อมที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรักษาเสถียรภาพของตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
          "ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของสถาบันการเงินสหรัฐอย่างใกล้ชิด และจะพยายามรักษาสภาพคล่องของตลาดด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินตามสมควร" นายชิรากาวะ กล่าวในแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ของธนาคาร
          "หน้าที่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นคือการทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น" โคจิ ชิมาโมโตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก BNP Paribas Securities Japan Ltd. ในโตเกียว กล่าว "ระบบเงินในปัจจุบันมีความผันผวนมากเกินไป" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน