FED อัดฉีดเงิน $7 หมื่นล้านเข้าระบบธนาคารสหรัฐ มุ่งสะกัดต้นทุนกู้ยืมพุ่งหลัง"เลห์แมน"ล้มละลาย

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 16, 2008 09:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารอีก 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องครั้งใหญ่สุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 โดยเฟดมีเป้าหมายที่จะลดความร้อนแรงของต้นทุนการกู้ยืมซึ่งเป็นผลมาจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส 
เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยืนยันว่า บริษัทได้ยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารบาร์เคลย์ส ปฏิเสธที่จะเข้าซื้อกิจการเลห์แมน บราเธอร์ส ซึ่งธุรกิจที่ยื่นฟ้องขอพิทักษ์การล้มละลายครั้งนี้เป็นธุรกิจโฮลดิ้ง และไม่ครอบคลุมถึงบริษัทในเครือ
การอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการธนาคารครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศใช้มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มวงเงินสภาพคล่อง
เบน เบอร์นันเก้ ประธานกรรมการเฟดกล่าวว่า "ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการคลังและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ เราได้หารืออย่างต่อเนื่องกับผู้เกี่ยวข้องในตลาด ซึ่งรวมถึงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อระบุถึงจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดหลังจากเกิดปัญหาในสถาบันการเงินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และเพื่อพิจารณาถึงการตอบรับอย่าง เหมาะสมทั้งในภาครัฐบาลและภาคเอกชน"
"มาตรการที่เราประกาศออกมาในวันนี้ รวมทั้งมาตรการสำคัญ ที่ภาคเอกชนประกาศออกมา มีจุดประสงค์ที่จะลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และลดอุปสรรคในตลาด" เบอร์นันเก้กล่าว
เฟดได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำ (PDCF) เพื่อให้ใกล้เคียงกับประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถใช้ในการประกันการกู้ยืมในระบบรีโปสามฝ่ายของธนาคารชำระบัญชีขนาดใหญ่สองแห่ง โดยก่อนหน้านี้หลักทรัพย์ ประกันการกู้ยืมในโครงการ PDCF ถูกจำกัดไว้เพียงแค่หลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนเท่านั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ