นักวิเคราะห์คาดธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ยอีก หวังกระตุ้นการใช้จ่ายหนุนเศรษฐกิจ

          ธนาคารกลางจีนอาจจะลดดอกเบี้ยลงอีก รวมทั้งผ่อนปรนข้อจำกัดในการปล่อยกู้ของแบงค์ รวมทั้งกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี 
          จิง อุลริช ประธานไชน่า อิควิตีส์ ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า ผู้บริหารระดับนโยบายจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องการลดดอกเบี้ยต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้น 
          เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง  และลดเพดานสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก
          เงินเฟ้อของจีนที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 14 เดือนทำให้จีนมีโอกาสในการลดดอกเบี้ยและคุ้มครองตลาดงาน เนื่องจากแนวโน้มการส่งออกไม่สดใสนัก และวิกฤติสินเชื่อเองก็ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐได้ยื่นขอคุ้มครองสินทรัพย์จากกฎหมายล้มละลาย ส่วนแบงค์ ออฟ อเมริกา ก็ได้ตกลงซื้อกิจการของเมอร์ริล ลินช์ มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ 
          บลูมเบิร์กรายงานว่า อเล็ค ยัง นักยุทธศาสตร์ของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส กล่าวว่า วงจรการลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของจีนนั้นอาจจะกำลังเกิดขึ้นแล้ว เป้าความสนใจตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เงินเฟ้ออีกต่อไป แต่อยู่ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ส่วนเศรษฐกิจประเทศอื่นๆก็มีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และการขยายตัวของเศรษฐกิจก็กำลังชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน
          ธนาคารกลางจีนได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเหลือ 7.20% จากระดับ 7.47% มีผลบังคับใช้วันนี้ และยังได้ลดเพดานสำรองของธนาคารขนาดเล็กเหลือ 16.5% จากเดิมที่ 17.5% และได้ระบุในแถลงการณ์ว่า การลดดอกเบี้ยลงจะช่วยแก้ปัญหาสำคัญๆในระบบเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่องและขยายตัวอย่างรวดเร็ว 
          เมื่อเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนได้ลดกฎระเบียบเรื่องขีดจำกัดสำหรับธนาคารที่จะปล่อยกู้ ด้วยการเพิ่มโควต้าการปล่อยกู้ปีนี้แก่แบงค์ของจีน 5% และธนาคารในระดับภูมิภาคอีก 10% 
          มาร์ค วิลเลียมส์ นักเศรษฐศาสตร์ของแคปิตอล อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าโควต้าเหล่านี้จะคลี่คลายลงอีกครั้ง การลดดอกเบี้ยก็คงจะส่งผลกระทบในขนาดที่จำกัดต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการปล่อยกู้ของธนาคารได้รับไฟแนนซืเพียง 5% ของการลงทุนในปีที่แล้ว