โรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสและผู้ผลิตน้ำมันและแก็สในอ่าวเม็กซิโกอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะฟื้นระบบการผลิตน้ำมันและแก็สให้กลับเข้าสู่ภาวะการผลิตตามปกติ หลังจากที่พายุเฮอริเคน"ไอค์"พัดเข้าถล่มแต่โรงกลั่นไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
บริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า โรงกลั่นของบริษัทที่เมืองโบมอนท์ รัฐเท็กซัสเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากพายุไอค์ เนื่องจากกระแสน้ำที่พายุลูกนี้พัดขึ้นฝั่ง ส่วนบริษัท โรยัล ดัทช์ เชลล์ ก็ได้เริ่มดำเนินการผลิตน้ำมันบางส่วนทางตะวันออกของอ่าวเม็กซิโกแล้ว ขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นได้พัดเข้ามาและทำให้การฟื้นฟูการผลิตที่โรงงานเป็นไปอย่างยากลำบาก
บลูมเบิร์กรายงานว่า แอนดี ลิโพว์ ประธานลิโพว์ ออยล์ แอสโซซิเอทส์ แอลแอลซี กล่าวว่า โรงกลั่นส่วนใหญ่ในฮุสตันและเท็กซัสคงจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วันจึงจะเปิดใช้งานได้ ไฟฟ้าและกำลังคนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้โรงกลั่นยังไม่สามารถกลับมาผลิตได้
โรงกลั่นน้ำมันในเท็กซัสและหลุยเซียน่า 14 แห่ง ซึ่งคิดเป็นความสามารถในการผลิตน้ำมันดิบรวม 3.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน ได้ปิดทำการเนื่องจากพายุไอค์ที่พัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองกัลเวสตันเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ส่งผลให้ความสามารถในการกลั่นน้ำมันสหรัฐชะงักไปประมาณ 20%
ทอม ไนท์ ผู้อำนวยการเทรดดิ้งของทรูแมน อาร์โนลด์ กล่าวว่า โรงงานและโรงกลั่นคงจะไม่สามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้ตามปกติ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 10 วันเป็นอย่างต่ำ ไปจนถึง 2 อาทิตย์
โดยภาวะขาดแคลนดกระแสไฟฟ้าที่โรงกลั่นคาดว่า จะทำให้อุปทานลดลง และกระตุ้นราคาน้ำมันเบนซินให้สูงขึ้น เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันในสหรัฐสูงขึ้น 4.8% แตะ 3.842 ดอลลาร์ต่อแกลลอน จากระดับเมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้ว
ลิโพว์กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์หน้า ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยอาจจะสูงถึง 3.90 - 3.95 ดอลลาร์ และหลังจากนั้นก็จะปรับตัวลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--