บารัค โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตที่จะไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในศึกเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นเดือนพ.ย.นี้ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จำเป็นต้อง "จับทิศทาง" ตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปขณะนี้ให้ทัน และระบุว่า นักลงทุนไม่ต้องการเห็นประชาชนผู้เสียภาษีต้องได้รับผลกระทบในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
โอบามาตำหนิว่า วิกฤตการณ์ในตลาดการเงินและตลาดอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเพราะความล้มเหลวของคณะทำงานประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่ไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดและไม่ได้นำระบบใหม่ๆมาใช้
"เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของตลาดวอลล์สตรีทควรจับทิศทางตลาดให้ทัน ในขณะที่ทำเนียบขาวเองก็ยังขาด "ภาวะผู้นำ" ผมจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐจริงจังในการใช้มาตรการ เนื่องจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว นักลงทุนหวาดผวาไปกับข่าวการล้มละลายของเลห์แมน ซึ่งถือเป็นการล้มครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐ และสร้างแรงกระเพื่อมไปยังตลาดการเงินทั่วโลก" โอบามากล่าว
นอกจากนี้ โอบามายังตำหนิ จอห์น แมคเคน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ที่ตั้งใจจะสานต่อนโยบายเศรษฐกิจของบุช โดยโอบามาระบุว่า นโยบายดังกล่าวเป็นต้นเหตุที่ให้ตลาดหุ้นนิวยอร์และตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำอย่างน่าใจหาย อย่างไรก็ตาม โอบามากล่าวชื่นชมนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐว่า พอลสันทำถูกต้องแล้วที่เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการพยุงระบบการเงิน และธนาคารสหรัฐ (เฟด) ทำถูกต้องแล้วที่ไม่นำเงินเข้าไปพยุงสถาบันการเงินที่มีปัญหาทั้งหมด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--