นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐจะลดลง 0.1% ซึ่งจะเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงปรับตัวลดลง และกลุ่มบริษัทเอกชนปรับลดราคาสินค้า และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาสินค้าในหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ไบรอัน เบนธูน นักวิเคราะห์จาก Global Insight Inc. ในเมืองเมสซาชูเซท กล่าวว่า "ตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงอาจกระตุ้นให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ ซึ่งนำไปสู่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส โดยปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนี CPI ลดลงมาจากการที่บริษัทหลายแห่ง อาทิ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และเจซี เพนนี ลดราคาสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนส.ค.ในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย)
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4% และเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 17 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--