คปภ.เผยฐานะเอไอเอในไทยแข็งแกร่ง-สภาพคล่องสูง ปัญหา AIG ยังไม่กระทบ

          นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ หรือเอไอเอ บริษัทประกันภัยในกลุ่ม AIG ในสหรัฐ ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องทางการเงินค่อนข้างสูง ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาของบริษัทแม่
          ทั้งนี้ เอไอจี ซึ่งเป็นบริษัทประกันของสหรัฐมีปัญหาขาดสภาพคล่อง และอาจส่งผลกระทบถึงบริษัทลูกในประเทศต่างๆ นั้น จากการตรวจสอบชอง คปภ. ซึ่งมีกฎหมายควบคุมดูแลให้บริษัทประกันต้องตั้งเงินสำรองกองทุนให้เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมาย คือ ต้องมีเงินกองทุนไม่น้อยกว่า 150% ของการประกอบธุรกิจ ซึ่งพบว่า เอไอเอประเทศไทย มีเงินกองทุนมากถึง 1,107% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้มาก
          นอกจากนี้ ภาพรวมฐานะของเอไอเอประเทศไทย ณ ปี 50 มีสินทรัพย์รวมตามบัญชีมากกว่า 300,000 ล้านบาท และในปีนี้ ตั้งแต่ ม.ค.- ก.ค.51 มีสินทรัพย์รวม 380,000 ล้านบาท และมีผลกำไรสะสมปี 2550 กว่า 65,000 ล้านบาท และในช่วงปี 51 ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ค. มีกำไรสะสมมากกว่า 70,000 ล้านบาท ให้มีสภาพคล่องสูง และไม่น่าส่งผลกระทบต่อผู้ถือกรมธรรม์ 
          และหากดูสัดส่วนเอไอเอประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับเอไอจีของสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนหุ้นเพียงร้อยละ 1.36 เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ดังนั้นจึงอยากฝากเตือนถึงผู้เอาประกันว่าไม่จำเป็นต้องวิตกในเรื่องนี้
          นางจันทรา กล่าวว่า กรณีที่เอไอเอประเทศไทยจะส่งผลกำไรไปให้ AIG นั้น ตามกฎหมายมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ประกันชีวิต กำหนดไว้ว่าการส่งเงินผลกำไรไปให้บริษัทแม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนคือ คปภ.ก่อน ซึ่งเอไอเอประเทศไทยทำเรื่องขอส่งผลกำไรไปยังบริษัทแม่ นับตั้งแต่ปี 46 ในลักษณะปีต่อปี 
          ในปี 46 คปภ.ได้อนุมัติให้ส่งเงินไปได้ 1,200 ล้านบาท, ปี 47 จำนวน 1,200 ล้านบาท, ปี 48 จำนวน 2,000 ล้านบาท, ปี 49 จำนวน 2,000 ล้านบาท และ ปี 50 ขอนำส่งเงินกำไรจำนวน 10,000 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งเดือนละ 1,000 ล้านบาท ซึ่ง คปภ.กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติอยู่รณฤกษ์