ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับเงินยูโรที่อ่อนค่า ซึ่งภาวะดังกล่าวได้ช่วยกระตุ้นให้แนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนีปรับตัวดีขึ้น
นักวิเคราะห์ 43 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW อาจเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าที่กระเตื้องขึ้นอยู่ในระดับติดลบ 53 จากระดับติดลบ 55.5 ในเดือนส.ค.
"แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่ราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงกระตุ้นให้ขยายตัวดีขึ้นได้" สตีเฟน เบลมิเยอร์ นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงก์ เอจีกล่าว "แม้ความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงินอาจส่งผลให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อีกเล็กน้อย แต่เรามองว่าเศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลงในกรอบที่จำกัด"
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงกว่า 30% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา และเงินยูโรอ่อนค่าลง 10% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้บริโภคและภาคการส่งออก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรทรุดตัวลงเมื่อวานนี้ หลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ กลายเป็นสถาบันการเงินรายล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่อวิกฤตสินเชื่อจนประสบภาวะล้มละลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สถาบันการเงินทั่วโลกมียอดขาดทุนและปรับลดมูลค่าทางบัญชีทั้งสิ้นกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อได้ทำให้ตลาดหุ้นสูญเงินไปแล้ว 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้ ตลาดหุ้นเยอรมนีดิ่งร่วงลงแล้วถึง 26%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--