ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร,เยน ขานรับ FED ตรึงดอกเบี้ย

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเพื่อคลี่คลายภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 106.24 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 104.53 เยน/ดอลลาร์ และทะยานขึ้นแตะระดับ 1.1235 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1130 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4153 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4264 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.7871 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7995 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.6630 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.6597 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.8036 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8063 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย 
          คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ที่ 2.25% โดยเฟดให้เหตุผลว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและคลี่คลายสถานการณ์ปั่นป่วนในตลาด
          ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์บางกลุ่มในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า เฟดอาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และการที่เมอร์ริล ลินช์ เผชิญปัญหาทางการเงินจนต้องขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา ถือเป็นวิกฤตการณ์ชั่วข้ามคืนที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
          เดวิด โซลิน นักวิเคราะห์จาก  Foreign Exchange Analytics in Essex ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวว่า "การที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยได้ช่วยยับยั้งความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน หลังจากตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากข่าวการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส นอกจากนี้ ข่าวที่ว่ามีความเป็นไปได้ที่ว่าทางการสหรัฐจะเข้าช่วยเหลือบริษัท AIG ซึ่งเป็นบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ นับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น และยังช่วยพยุงตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ปิดในแดนบวกด้วย"
          เมื่อวานนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวของ AIG ลงสู่ระดับ A- จากเดิมที่ระดับ AA- และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ลดอันดับเครดิต AIG ลงสู่ระดับ A2 จากเดิมที่ Aa3 หลังจาก AIG หลังจาก AIG ขอเงินกู้โดยตรงจากเฟดมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังหาทางระดมทุนโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทต่างๆ อาทิ Kohlberg Kravis Roberts & Co. และ J.C. Flowers & Co.