นายสาธิต ชาญเชาว์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ปัญหาของการเมืองในประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ จะมีเพียงกลุ่มนักลงทุนใหม่ที่ไม่เคยเข้ามาลงทุนในไทยที่ชะลอการลงทุนเพื่อติดตามสถานการณ์การเมืองเท่านั้น และที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย เห็นว่า ไทยมีศักยภาพเหมาะสมในการขยายฐานการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิคส์ ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยเป็นจำนวนมาก เพราะสร้างจุดคุ้มทุนได้ดี
"การเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ 2549 ที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่นักลงทุนต่างชาติยังมองว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะเป็นฐานการลงทุนที่มีศักยภาพ" นายสาธิต กล่าว
เลขาธิการบีโอไอ คาดว่า ปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 5-6 แสนล้านบาท โดย 8 เดือนแรก(ม.ค.-ส.ค.51) มีเม็ดเงินลงทุนแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท เมื่อเทียบปีก่อนที่มีเงินลงทุน 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามปกติแต่ละปีจะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยเชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลืออีก 3-4 เดือน จะยังมีนักลงทุนเข้ามาขอรับการส่งเสริมการลงทุนต่อเนื่อง
สำหรับปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐนั้น เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมส่งออกที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐ ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา ทั้งอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิคส์ คอมพิวเตอร์ ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีการกระจายตลาดส่งออกไปประเทศอื่นทั่วโลก ไม่เฉพาะสหรัฐจึงถือว่ามีความเสี่ยงน้อย
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/จารุวรรณ/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--