ธนาคารกลางญี่ปุ่นเล็งอัดฉีดเงินเพิ่มเติมหลังตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5%

          ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบ หลังอัดฉีดเม็ดเงิน 5.5 ล้านล้านเยน (5.18 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดเงินซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐ
          "ทางธนาคารจะทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด" มาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์หลังตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% 
          การที่ธนาคารกลางหลายประเทศตั้งแต่เยอรมนีไปจนถึงออสเตรเลียต่างอัดฉีดเม็ดเงินมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ธนาคารต่างๆดำเนินการต่อไปได้ หลังเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ ล้มละลาย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ไม่ให้ล้มละลาย อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคส่งออกของญี่ปุ่นหดตัว และทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ส่อเค้าถดถอยย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
          "บีโอเจกำลังส่งสัญญาณว่าการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้ และไม่เห็นด้วยกับการปรับอัตราดอกเบี้ย" จุนโกะ นิชิโอกะ นักเศรษฐศาสตร์จาก RBS Securities Japan Ltd. ในโตเกียว กล่าว "ทางธนาคารกำลังพยายามประเมินว่าสถานการณ์ภายนอกจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหน"
          ดัชนีนิกเกอิ 225 ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเทคโอเวอร์บริษัทเอไอจี เพื่อป้องกันมิให้บริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐแห่งนี้ล้มละลาย
          "เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังขยายตัวอย่างยากลำบากแม้ราคาน้ำมันและวัตถุดิบจะเริ่มปรับลดลง ในขณะเดียวกันภาคการส่งออกก็ชะลอตัวลง" บีโอเจ กล่าว "ตลาดเงินทั่วโลกก็ตึงเครียดขึ้นทุกขณะ เศรษฐกิจโลกก็มีแนวโน้มว่าจะหดตัวลง" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน