สหรัฐเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่อาจดิ่งสุดในรอบ 17 ปีในเดือนส.ค. ส่งสัญญาณว่าสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่จะยังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไปในอีกหลายเดือนต่อจากนี้
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 74 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่อาจลดลง 1.6% ในเดือนส.ค. เหลือ 950,000 หลัง ในขณะที่อัตราการอนุมัติการก่อสร้างอาจลดลง 1% เหลือ 928,000 อัตรา
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์อาจลดการก่อสร้างลงเนื่องจากการปล่อยกู้มีความเข้มงวดกว่าเดิม ในขณะเดียวกันจำนวนบ้านติดจำนองก็ล้นตลาด และคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดสินเชื่อที่ซบเซาจะส่งผลเสียต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปจนถึงปีหน้า
"ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านต้องลดลงเนื่องจากจำนวนบ้านที่ยังขายไม่ได้มีอยู่ล้นตลาด" ไนเจล กอลท์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท โกลบอล อินไซต์ อิงค์ ในแมสซาชูเซตท์ กล่าว "ตลาดสินเชื่อจะตึงตัวยิ่งกว่าเดิม"
กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ณ เวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 893,000 - 1.04 ล้านหลัง
ปัญหาในตลาดสินเชื่อที่เกิดจากวิกฤตซับไพร์มกดดันให้เลห์แมน บราเธอร์ส เข้าสู่ภาวะล้มละลาย เพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจซื้อกิจการของแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--