ความเสี่ยงที่เกิดจากการผิดนัดจ่ายเงินไถ่ถอนพันธบัตรเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ส่อเค้าพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากกระแสข่าวที่ว่ามอร์แกน สแตนลีย์ และเอชบีโอเอส (HBOS Plc) ซึ่งเป็นผู้ออกสินเชื่อเคหะรายใหญ่ของประเทศอังกฤษ เจรจาขอควบรวมกิจการกับสถาบันการเงินรายอื่นๆ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีตราสารอนุพันธ์ประเภท credit-default swap ในออสเตรเลียและเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่นมีการซื้อขายในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ต้นทุนการคุ้มครองการผิดนัดจ่ายเงินไถ่ถอนพันธบัตรของบริษัทในตลาดวอลล์ สตรีทสูงเป็นประวัติการณ์ในตลาดนิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยยอดการทำ default swap สูงขึ้นจากมุมมองที่ว่าคุณภาพสินเชื่อที่ย่ำแย่ลง
มอร์แกน สแตนลีย์ ตกเป็นข่าวว่ากำลังเจรจากับสถาบันการเงินหลายแห่ง อาทิ วาโชเวีย คอร์ป ขณะที่ลอยด์ส ทีเอสบี กรุ๊ป ก็เตรียมซื้อเอชบีโอเอส พับลิค มูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ความกังวลว่าสถาบันการเงินจำนวนมากกว่านี้จะย่ำแย่และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือนั้น ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียดิ่งลงถ้วนหน้า และเกิดความกังวลว่า ยอด default swap จะสูงขึ้น
มาร์ค เบย์เบล์ ผู้อำนวยการสินเชื่อของเอบีเอ็น แอมโร โฮลดิ้ง กล่าวว่า สถานการณ์ที่เราเห็นว่าเกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงมาก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของคู่ค้า ซึ่งถือเป็นความน่าหวั่นวิตกเพราะความไม่รู้และไม่สามารถคาดการณ์ได้นี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--