เจพีมอร์แกนแนะแบงค์ชาติทั่วโลกผนึกกำลังกู้วิกฤตการเงิน-เปิดทางธนาคารพาณิชย์กู้เงินข้ามพรมแดน

          เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค มองว่า ธนาคารกลางทั่วโลกควรจะร่วมมือกันใช้มาตรการสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการเปิดทางให้แบงค์พาณิชย์สามารถกู้ยืมเงินแบบข้ามพรมแดน
          เดวิด เฮนส์ลีย์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน กล่าวว่า "ภาวะสินเชื่อยังคงหดตัวลงตั้งแต่เมื่อวาน แม้ธนาคารกลางหลายแห่งอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ไปแล้วในสัปดาห์นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะลดกระแสความตึงเครียดในตลาดหลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย วิกฤตสินเชื่อที่ลุกลามในวงกว้างได้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมในรูปสกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นรุนแรงสุดในรอบ 12 ปี"
          "เราคาดว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะขานรับข้อเสนอของนายมาริโอ กราฮี ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลีที่ว่า 'แบงค์ชาติทั่วโลกควรจะร่วมมือกันในระดับสากลเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในตลาดการเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกไม่ให้ถดถอย'  เราเชื่อว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะร่วมมือกันมากขึ้น จนถึงขั้นเปิดทางให้มีการกู้ยืมเงินแบบข้ามพรมแดน และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรจะโดดเข้าร่วมมือด้วย หากธนาคารกลางทั่วโลกร่วมมือกันขนาดนี้ก็จะช่วยยับยั้งความเสียหายในตลาดได้" เฮนส์ลีย์กล่าว
          ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางออสเตรเลีย และธนาคารกลางยุโรป ระดมกำลังอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร เพื่อผ่อนคลายภาวะสินเชื่อตึงตัว หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย และหลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ขาดสภาพคล่องอย่างหนักจนต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟด 
          มาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่า "บีโอเจพร้อมที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรักษาเสถียรภาพของตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของสถาบันการเงินสหรัฐอย่างใกล้ชิด และจะพยายามรักษาสภาพคล่องของตลาดด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินตามสมควร" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน