ADB เตือนสถาบันการเงินสหรัฐล้มอาจกระทบแบงค์ใหญ่ในเอเชีย แนะผู้ว่าแบงค์ชาติร่วมมือยับยั้งวิกฤต

          ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ออกรายงานเตือนในวันนี้ว่า วิกฤตการณ์การเงินที่เป็นผลมาจากสถาบันการเงินล้มละลายในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อธนาคารรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมแนะนำให้ธนาคารกลางในเอเชียร่วมมือกันเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน 
          ฮารุฮิโกะ คูโรดะ ประธาน ADB กล่าวในที่ประชุมนายธนาคารที่กรุงมะนิลาว่า "แม้ธนาคารในเอเชียมียอดขาดทุนในตลาดซับไพรม์น้อยกว่าในที่อื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะรับประกันว่าสถาบันการเงินรายใหญ่ๆในเอเชียจะไม่ถูกกระทบ เราจำเป็นต้องประเมินว่าสถาบันการเงินในเอเชียได้รับผลกระทบหรือไม่ในสัปดาห์นี้" 
          วิกฤตการณ์สินเชื่อที่รุนแรงส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างตื่นตระหนกในสัปดาห์นี้ นับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์ส ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลายจากศาลในกรุงนิวยอร์ก และหลังจากเมอร์ริล ลินช์ พบกับทางตันจนต้องขายกิจการให้แบงค์ ออฟ อเมริกา และเมื่อวานนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจพยุงกิจการบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ด้วยการปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้ AIG เพื่อแลกกับการที่เฟดเข้าถือหุ้น 79.9% ใน AIG ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้
          ทั้งนี้ ประธาน ADB กล่าวว่า เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์ดังกล่าวลุกลามเข้ามาในเอเชีย ธนาคารกลางในภูมิภาคแห่งนี้ควรร่วมมือกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตลาดเงิน และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินแก้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางในเอเชียควรใช้มาตรการที่รอบคอบในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน เพราะการดำเนินการที่มีความยืดหยุ่นและพอเหมาะเป็นหนทางที่ดีที่จะคลี่คลายปัญหาได้
          ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางออสเตรเลีย และธนาคารกลางยุโรป ระดมกำลังอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร เพื่อผ่อนคลายภาวะสินเชื่อตึงตัว หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย และหลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ขาดสภาพคล่องอย่างหนักจนต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟด สำนักข่าวเอพีรายงาน