เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ แบงค์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค อาจจะเข้าซื้อกิจการบางส่วนของบริษัท วอชิงตัน มูชวล อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทออมทรัพย์และปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ในขณะที่วาโชเวีย ธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ ก็ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับมอร์แกน สแตนลีย์ เพื่อเจรจาต่อรองเรื่องการควบรวมกิจการ
ธนาคารต่างๆอาจจะจำเป็นต้องควบกิจการเพื่อความอยู่รอด หลังจากที่วิกฤตสินเชื่อบีบให้เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อดีตวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐล้มละลาย ส่วนเมอร์ริล ลินช์ เองก็ขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา ขณะที่อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ก็ต้องรับความช่วยเหลือจากธนาคารกลางสหรัฐที่ปล่อยเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ แลกกับการถือหุ้น 79.9% ในบริษัท
ทางด้านเวลส์ ฟาร์โก ก็กำลังดำเนินการเพื่อที่จะซื้อสินทรัพย์ที่ถูกกดราคาลงอย่างหนักในช่วงที่ตลาดหุ้นดิ่งลงจนทำให้มูลค่าในตลาดกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของบริษัทสหรัฐต้องสูญหายไป
บลูมเบิร์กรายงานว่า แจ็ค เอบลิน ซีไอโอของแฮร์ริส ไพรเวท แบงค์ กล่าวว่า หากสถาบันการเงินเหล่านั้นสามารถตกลงกันได้ ตลาดก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ตอนนี้กิจการของธนาคารถูกเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มอื่นๆในตลาด
แบรด รัสเซล โฆษกของวอชิงตัน มูชวล ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ เช่นเดียวกับโฆษกของเจพีมอร์แกน และโฆษกของเวลส์ ฟาร์โก
วอชิงตัน มูชวล ซึ่งมูลค่าในตลาดร่วงลง 85% ในปีนี้อันเนื่องมาจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ กำลังดึงความสนใจ เนื่องจากสาขาของบริษัทจำนวน 2,300 แห่ง และเงินฝากรายย่อย 1.43 แสนล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มผู้สนใจซื้อกิจการคงจะไม่เต็มใจที่จะซื้อกิจการที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เพื่อการจำนองของบริษัท ซึ่งอาจจะขาดทุนรวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีหน้า
เจม ปีเตอร์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของมอร์นิ่งสตาร์ อิงค์ กล่าวว่า ข้อตกลงใดๆที่เกิดขึ้นก็ตามมีส่วนช่วยลดความกังวลและความเสี่ยงในตลาด ตลาดกลัวกันมากและส่งผลให้หุ้นถูกซื้อขายกันตามปัจจัยพื้นฐาน และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--