โรเบิร์ต แบร์รี นักเศรษฐศาสตร์ของเครดิต สวิส กรุ๊ป กล่าวแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางสวิส และธนาคารกลางแคนาดาร่วมมือกันอัดฉีดเงินเข้าระบบว่า เมื่อเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้น ธนาคารกลางต่างๆจึงจำเป็นต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้น นอกจากการอัดฉีดเงินเข้าระบบแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นๆอีก เช่น การใช้ตราสาร CD สกุลเงินต่างประเทศ และการเพิ่มปริมาณเงินกู้ให้กับธนาคารในต่างประเทศ
แบร์รี กล่าวว่า การที่ตลาดขาดแคลนเงินดอลลาร์ได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้วิกฤตการเงินทั่วโลกอยู่ในขั้นเลวร้าย และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงได้เห็นธนาคารกลางต่างๆร่วมมือกันเช่นนี้
ทางด้านจิม โอนีล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดขาดความเชื่อมั่นอย่างหนัก นักลงทุนเมินหุ้นแบงค์ ดังนั้น ธนาคารกลางจึงจำเป็นต้องออกมาบรรเทาสถานการณ์ และการอัดฉีดเงินครั้งนี้อาจจะไม่ใช่การอัดฉีดเงินรอบสุดท้าย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับธนาคารกลางประเทศต่างๆเพื่ออัดฉีดงบ 1.80 แสนล้านดอลลาร์เข้าตลาด ในช่วงที่ตลาดกำลังเผชิญวิกฤต
โดยธนาคารกลางยุโรปได้รับมอบอำนาจให้เพิ่มเงินอัดฉีดถึงสองเท่าเป็น 1.10 แสนล้านดอลลาร์จากเพดานเดิมที่ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนธนาคารกลางสวิสสามารถอัดฉีดงบ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะการทำสว็อปของธนาคารกลางญี่ปุ่นอยู่ที่ 6.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ธนาคารกลางอังกฤษ 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารกลางแคนาดา 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--