นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.วิเคราะห์ผลกระทบจากวิกฤติล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ เกิดจากสภาวะสภาพคล่องล้นโลกและนำไปสู่วิกฤติซับไพร์ม ซึ่งได้ลุกลามไปสู่ความผันผวนของตลาดการเงินโลก โดยเชื่อว่าเหตุการณ์จะยังไม่จบในช่วงสั้นๆ นี้ แต่จะนำไปสู่การควบรวมกิจการของกิจการวาณิชยธนกิจ ธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันภัยในไม่ช้า
ทั้งนี้ ไทยต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระยะสั้น เพื่อป้องกันปัญหาการขาดสภาพคล่องจากสถานการณ์เงินทุนไหลออก และระดมเงินกู้ในประเทศแทนการกู้ต่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐต้องเข้ามาดูแลสภาพคล่องในประเทศให้เพียงพอ หากมีเงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว และเกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด นอกจากนี้ ธปท.ต้องเข้ามาดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลภูมิภาคและไม่ให้มีความผันผวน
ส่วนระยะปานกลาง เพื่อป้องกันเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะต่อไปจากปัจจัยเสี่ยงด้านต่างประเทศที่กระทบภาคการส่งออก โดยภาครัฐต้องเร่งการใช้จ่ายโดยเฉพาะการลงทุนให้เร็วขึ้น ผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็คต์ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษบกิจแทนการส่งออก
ส่วนนโยบายการเงินต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ขณะนี้ความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อมีน้อยกว่าความเสี่ยงต่อการหดตัวทางเศรษฐกิจ
และนโยบายระยะยาว ต้องเร่งตลาดส่งออกสินค้าไปตลาดใหม่ๆ ที่ไม่ได้ผลกระทบจากสหรัฐมากนัก เช่น แอฟริกา ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ยังต้องแสวงหาความร่วมมือทางด้านการเงินจากประเทศในภูมิภาคเอเซียให้มากขึ้น ซึ่งอาจใช้เวทีการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือน ธ.ค.นี้ เป็นเวทีขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างจริงจัง
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--