รายงานหลังการประชุมของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากราคาบ้านยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดเงินทั่วโลกเต็มไปด้วยความผันผวน
"ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนและยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ความผันผวนในตลาดเงินจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่และจะส่งผลกระทบอะไรอีกบ้าง ขณะที่ราคาสินทรัพย์และการดำเนินธุรกิจซบเซาลงเรื่อยๆ"
ทั้งนี้ บีโอเจกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ภาคการส่งออกขาดปัจจัยหนุนขณะที่ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัวแต่มีเงินเฟ้อในระดับสูง วิกฤติการเงินทั่วโลกปะทุขึ้นหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ประสบภาวะล้มละลายซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอลง ดังนั้นความหวังที่จะได้เห็นเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วงขาลงในไตรมาสที่สองจึงดูเลือนรางลงทุกที
"เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความเลวร้ายและมีความเสี่ยงปรากฎให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ" มาริ อิวาชิตะ นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities SMBC ในโตเกียวกล่าว "เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายดูเหมือนจะต้องทำใจว่ากว่าเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นคงต้องใช้เวลานานออกไปอีก"
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารมีมุมมองในแง่ลบเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจกันมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นภาคการผลิตมีแนวโน้มดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีในไตรมาสนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางหลายแห่งได้เห็นชอบที่จะอัดฉีดเงินจำนวน 1.80 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นกลับคืนมา หลังจากที่มีความวิตกกังวลกันว่า อาจมีธนาคารหลายแห่งต้องประสบภาวะล้มละลายตามรอยเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ โดยบีโอเจกล่าวว่าจะอัดฉีดเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศเป็นครั้งแรกเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถกู้ยืมเงินดอลลาร์ได้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--