ภาครัฐ-เอกชนมั่นใจวิกฤติการเงินสหรัฐไม่กระทบต่อการส่งออกของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 22, 2008 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารของไทย เนื่องจากสินค้าอาหารเป็นที่ต้องการของทุกประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ไทยยังได้มีการกระจายตลาดสินค้าไปยังหลายประเทศทั่วโลก ทำให้สหรัฐไม่ใช่ตลาดหลักที่ไทยส่งออกไปมากที่สุดแล้ว และปัญหาสภาพอากาศที่แปรปวนก็จะไม่กระทบกับไทยด้วย
โดยขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนแม่บทอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2555 จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเป็น 4% หรือมีมูลค่าการส่งออก 1 ล้านล้านบาท จากป้จจุบันที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 2.9% หรือมีมูลค่า 8 แสนล้านบาท แต่เป้าหมายดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเพราะการแข่งขันในตลาดโลกค่อนข้างสูง
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศต้องสานต่อนโยบายที่มีอยู่เดิมให้เดินหน้าต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนต้องการให้นโยบายเดิมเดินหน้าต่อไปแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล ซึ่งหากยังเดินหน้านโยบายเดิมได้ก็จะช่วยสร้างความเขื่อมั่นให้กลับคืนมา รวมทั้งต้องยึดแนวนโยบายการค้าเสรี และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดด้วย
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับที่รัฐบาลจะนำบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่ง รมว.คลัง หลังมีข่าวการทาบทามนายโอฬาร ไชยประวัติ หรือนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เนื่องจากทั้งสองบุคคลมีความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินและการที่นำบุคคลภายนอกมารับตำแหน่งจะทำให้ภาพเศรษฐกิจของไทยได้รับการยอมรับโดยเร็ว
ขณะเดียวกันควรมีคนของพรรคการเมืองเข้ามาเป็น รมช.คลัง เพื่อประสานงานกับพรรคการเมืองในการออกนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้า โดยสิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรเร่งดำเนินการ คือ การฟื้นฟูการท่องเที่ยว และอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐเข้าสู่ระบบ และเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็คต์ การดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพและสร้างความมั่นคงทางการเมือง เพื่อให้เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าขยายตัวได้ 5% ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลใหม่ต้องไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญ หรือ นโยบายที่ให้ผลประโยชน์กับพวกพ้องของตนเอง ซึ่งจะทำให้กระทบเสถียรภาพทางการเมืองได้
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและวิกฤตการเงินในสหรัฐอาจทำให้ตัวเลขเอ็นพีแอลทั่วโลกเพิ่มขึ้น แต่เรื่องการส่งออกของไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะขณะนี้ไทยพึ่งการส่งออกในตลาดเอเชียมากขึ้น และการที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงก็จะส่งผลดีต่อประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจเอเชียจะโตได้ 5-6% แต่ในระยะสั้นไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นมีความผันผวนบ้าง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ