นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้เรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันบางผลิตภัณฑ์เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มอีกลิตรละ 40-50 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
โดยในส่วนของเบนซิน 95 ยังคงเก็บที่ 4 บาท/ลิตรเท่าเดิม, เบนซิน 91 เก็บเพิ่มอีก 40 สต./ลิตร เป็นจัดเก็บ 4 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 เก็บเพิ่มอีก 50 สต./ลิตร เป็น 1.35 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 เก็บเพิ่มอีก 50 สต./ลิตร เป็น 85 สต./ลิตร, แก๊สโซฮอล์ อี 20 ยังคงเก็บที่ 30 สต./ลิตรเท่าเดิม, ดีเซลเก็บเพิ่มอีก 50 สต./ลิตร เป็นจัดเก็บ 1.20 บาท/ลิตร และดีเซล บี 5 ลดการชดเชยจาก 70 สต./ลิตร ลงเหลือ 20 สต./ลิตร
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การเรียกเก็บเงินดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบให้ต้องมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ เพราะค่าการตลาดน้ำมันในขณะนี้อยู่ในเกณฑ์สูง โดยก่อนหน้านี้มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มไปแล้วลิตรละ 55-60 สตางค์
สำหรับการเรียกเก็บเงินเพิ่มครั้งนี้คาดว่า จะนำไว้สำรองเพื่อแก้ปัญหาการแบกภาระการนำเข้าก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ที่มีสัดส่วนสูงเกินคาดการณ์ และดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันในอนาคต
นายพรชัย กล่าวอีกว่า การประชุม กบง. ครั้งนี้ ยังมีมติให้จัดสรรน้ำมันดีเซลที่ได้รับการช่วยเหลือจากโรงกลั่นน้ำมันให้กับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เพื่อใช้ในการขุดลอกกร่องน้ำรวมกับน้ำมันที่เคยจัดสรรให้แล้ว 1,500 ลิตรต่อเดือนเป็นจำนวน 1,131,000 ลิตร ในระยะเวลา 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย.51)
กรมประมง เพื่อใช้ในการขุดลอกหนองบึงและแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวน 36,000 ลิตรต่อเดือน ในระยะ 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย.51)
และช่วยเหลือน้ำมันดีเซลให้เปล่าแก่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมากในขั้นแรก 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร สระบุรี ลพบุรี และนครราชสีมาจังหวัดละ 100,000 ลิตรเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสพภัย
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--