เงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์วันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นและเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง จากกระแสความวิตกว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
สกุลเงินทั้งสองแข็งค่าขึ้นหลังดัชนี UBS Bloomberg Constant Maturity Commodity (CMCI) ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าเมื่อเทียบเงินยูโร เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าการที่รัฐบาลสหรัฐทุ่มเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสินทรัพย์จากธนาคารต่างๆที่กำลังประสบปัญหาการเงินอาจทำให้รัฐบาลยิ่งขาดดุลงบประมาณ ยิ่งไปกว่านั้นมาตรการดังกล่าวอาจประสบความล้มเหลวในการยับยั้งมิให้เศรษฐกิจชะลอตัว
"เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อคืนที่ผ่านมาหนุนให้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น" เกลนน์ วิตติงสโลว หัวหน้าฝ่ายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากเซนต์ จอร์จ แบงค์ ในซิดนีย์ กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.43 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 1.4% สู่ระดับ 84.65 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 83.47 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อวานนี้ นายวิตติงสโลวคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอาจแตะ 83.50 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และแนะนำให้นักลงทุนซื้อสกุลเงินดังกล่าวเมื่อเวลานั้นมาถึง ส่วนเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายอยู่ที่ระดับ 89.14 เยนต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 88.73 เยนต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย
ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าแตะ 69.53 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ก่อนที่จะขยับลงมาที่ 69.18 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 68.74 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ ส่วนเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 72.85 เยนต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 73.04 เยนต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--