แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป เปิดเผยว่า โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ และมอร์แกน สแตนลีย์ อาจเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาล ขณะที่ธนาคารหลายแห่งจะได้รับความช่วยเหลืออยู่ในวงจำกัด
"อานิสงส์จากมาตรการนี้จะส่งผลดีเฉพาะในกลุ่มวาณิชธนกิจและธนาคารที่มีตัวเลขการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์และมีสินทรัพย์ด้อยค่าอยู่เป็นจำนวนมากเท่านั้น" เจฟฟรีย์ โรเซนเบิร์ก ประธานฝ่ายการวิจัยด้านกลยุทธ์ในแผนกสินเชื่อของแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าว
ธนาคารหลายแห่งอาจไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในแผนการคลายวิกฤตสินเชื่อครั้งนี้ หากไม่มีตัวเลขสินทรัพย์ที่มีการปรับลดมูลค่าทางบัญชีมากนัก ซึ่งหมายความว่าการตัดสินใจที่จะขายหนี้เสียในโครงการนี้อาจทำให้สถาบันขาดเงินทุน ขณะที่บรรดาวาณิชธนกิจมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามราคาตลาด ส่วนธนาคารพาณิชย์ถือครองสินทรัพย์ตามต้นทุนไปจนกว่าจะมีการขาดทุน
ทั้งนี้ โรเซนเบิร์กมองว่า รัฐบาลสหรัฐจะใช้วิธีการประมูลในระดับที่ธนาคารเต็มใจจะขายสินทรัพย์บางประเภทเพื่อให้รัฐบาลซื้อในราคาที่ถูกที่สุดโดยมีเป้าหมายที่จะปกป้องผลประโยชน์ของผู้ชำระเงินภาษี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้มาตรการของนายเฮนรี่ พอลสัน ที่มีเป้าหมายจะแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องในระบบการเงิน ควบคู่ไปกับกระตุ้นมูลค่าสินทรัพย์ในสถาบันการเงินกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--