คกก.ติดตามภาวะฉุกเฉินนัดถกผลกระทบไทยจากวิกฤติสหรัฐฯ รอบแรก 25 ก.ย.

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า วันที่ 25 ก.ย.คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ในภาวะฉุกเฉินที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานจะประชุมร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการล้มละลายของบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส และการเข้าไปช่วยเหลือของทางการสหรัฐฯ
          "คณะกรรมการจะพิจารณาพัฒนาการของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย ก่อนพิจารณาว่าจำเป็นต้องออกมาตรการมาดูแลหรือไม่" นายสมชัย ระบุ
          เบื้องต้นจากการติดตามข้อมูลของ สศค.ประเมินว่า ผลกระทบจากกรณีของเลห์แมนฯ และการล้มของสถาบันการเงินอื่นๆ ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะสถาบันการเงินไทยที่เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้หรือลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมนฯ มีการทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกันน้อยมากจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ทั้งนี้ต้องติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
          นอกจากนี้ยังไม่พบปัญหาการขาดสภาพคล่องในระบบ เพียงแต่ ธปท.ต้องเข้าไปดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวน และไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเกินไป เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่ต้องอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว นอกจากนี้ต้องดูแลเรื่องสภาพคล่องไม่ให้เกิดปัญหา
          "การล้มของเลห์แมนฯ ไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจไทย เพราะเมื่อเข้าไปดูแล้วพบว่า ไทยทั้งแบงก์หรือสถาบันการเงินอื่นๆ เข้าไปลงทุนใน CDO น้อยมาก จึงไม่น่าเป็นห่วง เพราะหากมีการเข้าไปลงทุนเยอะๆ จะน่าเป็นห่วงมากกว่า ส่วนแบงก์ชาติก็ต้องพิสูจน์ฝีมือในการเข้าไปดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน ดูแลสภาพคล่องไม่ให้เกิดปัญหา" นายสมชัย กล่าว