เงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อ่อนค่าลงหลังพุ่งแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้จากสถานการณ์ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ สกุลเงินดังกล่าวยังอ่อนค่าลงหนักสุดในรอบ 6 วันเมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าสภาคองเกรสจะยืดเวลาในการพิจารณามาตรการกู้วิกฤตการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ UBS Bloomberg Constant Maturity Commodity 26 รายการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา
"เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงและตลาดหุ้นซบเซา" ริชาร์ด เกรซ นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ ออฟ ออสเตรเลีย ในซิดนีย์กล่าว "นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีแนวโน้มจะถูกแรงเทขายในสถานการณ์เช่นนี้"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.23 น. ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 1% แตะที่ 83.53 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 85.19 เซนต์สหรัฐคืนวานนี้ ขณะที่เกรซคาดว่า สกุลเงินดังกล่าวจะอ่อนค่าลงมาเคลื่อนไหวในระดับ 85-87 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนหน้าก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาแตะ 78 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียในสิ้นปีนี้
ด้านเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 1.2% แตะที่ 68.17 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์จากเมื่อวานนี้ที่พุ่งสู่ระดับสูงสุดที่ 69.53 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ และอ่อนค่าลง 1.1% แตะที่ 71.91 เยนต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์
นอกจากนี้ ยังดอลลาร์ออสเตรเลียที่ร่วงลงยังเป็นผลจากราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ส่งออกที่ผันผวนที่สุดอันดับ 3 ของออสเตรเลียลดลงแตะที่ 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเช่นกัน ทั้งนี้ สินค้าวัตถุดิบนั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 60% ของยอดส่งออกของออสเตรเลีย ขณะที่ยอดขายสินค้าโภคภัณฑ์มีสัดส่วนคิดเป็น 70% ของการส่งออกทั้งหมดในนิวซีแลนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--