นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐอาจลดลงในเดือนส.ค.

          นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐอาจลดลง 1.2% เหลือ 4.94 ล้านหลังในเดือนส.ค. แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยิ่งซบเซาหลังเกิดวิกฤตการเงิน          
          วิกฤตสินเชื่อที่เพิ่งส่งผลให้อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) และ เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ เข้าสู่ภาวะล้มละลาย ยังอาจส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้านยิ่งมีความเข้มงวดกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายบ้านลดลงอีกในที่สุด
          "ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังซบเซาต่อเนื่องจนกว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรฐานการปล่อยเงินกู้" ซัล กัวเทียรี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก BMO Capital Markets ในโทรอนโต กล่าว "มีแนวโน้มว่ายอดขายบ้านจะทรงตัวอยู่ที่ระดับต่ำและไม่ทรุดลงไปมากกว่าเดิม"
          ทั้งนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองอย่างเป็นทางการ ณ เวลา 10.00 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 4.7 ล้าน ถึง 5.15 ล้านหลัง
          ก่อนหน้านี้ยอดขายบ้านมือสองลดลงเหลือ 4.85 ล้านหลังในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี และร่วงลงกว่า 33% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.ย.ปี 2548
          ในวันพรุ่งนี้กระทรวงพาณิชย์จะเผยยอดขายบ้านมือหนึ่งประจำเดือนส.ค. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงเหลือ 510,000 หลัง จาก 515,000 หลังในเดือนก.ค. โดยยอดขายบ้านมือหนึ่งร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ที่ 503,000 หลังเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และร่วงลงกว่า 64% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.ค.ปี 2548 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน