รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุกรณีพื้นที่เพาะปลูกข้าวถูกน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อภาพรวมผลผลิตข้าวทั้งประเทศไม่มากนัก เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก โดยหลังน้ำลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเกษตรกรสามารถฟื้นฟูและปลูกเสริมใหม่ได้ทันเวลา ขณะที่ภาคเอกชนเชื่อไม่กระทบเป้าส่งออกปีนี้
"จากการสำรวจนาข้าวในหลายพื้นที่พบว่าไม่น่าจะมีความเสียหายมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก ไม่ใช่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว เมื่อน้ำลดจะเสียเวลาไปประมาณ 15-30 วันก็สามารถที่จะฟื้นฟูและปลูกใหม่ได้ทัน อีกทั้งระบบชลประทานน่าจะสามารถส่งน้ำได้ จึงเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศในภาพรวมมากนัก"นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งสำรวจความเสียหายในแต่ละพื้นที่ภายหลังน้ำลดให้เร็วที่สุด โดยระดมทุกหน่วยงานในสังกัดกระจายลงไปในทุกเขตพื้นที่ พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการทุกเขตเป็นผู้ประสานงานระหว่างพื้นที่ที่เสียหายกับกระทรวงเกษตรฯ เมื่อได้ข้อมูลความเสียหายครบถ้วนแล้วก็จะดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้กับเกษตรกรโดยตรง ไม่ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงใย
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้คงต้องใช้เวลาอีก 1 เดือน ซึ่งคาดว่าพื้นที่ลุ่มอาจได้รับความเสียหายเพียงบางส่วน แต่พื้นที่ดอนจะได้ผลผลิตที่ดีขึ้น เพราะปริมาณน้ำมีมากเพียงพอต่อการเพาะปลูก
ประกอบกับ แม้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ แต่หากไม่มีฝนตกลงมาอีกต้นข้าวที่เริ่มโตสามารถทนต่อสภาพน้ำท่วมขังได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ภาพรวมของพื้นที่เพาะปลูกข้าวได้รับผลกระทบบางส่วนเท่านั้น แต่จะไม่กระทบต่อยอดการส่งออกข้าวในปีหน้าอย่างแน่นอน
ส่วนภาพรวมการเพาะปลูกข้าวนาปีในปีนี้ผลผลิตดีขึ้น เนื่องจากราคาข้าวที่ปรับตัวดีตั้งแต่ต้นปี ทำให้พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเชื่อว่าการส่งออกข้าวจะเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ 10 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ มีความเป็นห่วงต่อการส่งออกข้าวในปี 52 เพราะหลายประเทศผลิตข้าวมากขึ้นเนื่องจากราคาจูงใจ ซึ่งรัฐบาลใหม่ต้องเตรียมมาตรการไว้รับมือ พร้อมหาตลาดใหม่รองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--