ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นเกิดการชะลอตัวในเดือนส.ค.โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐลดลง เนื่องจากวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นกดดันให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์น้อยลง
กระทรวงการคลังรายงานว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นมีการขยายตัว 0.3% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัวกว่า 8% ในเดือนก.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.3%
ภาคการส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่นมาตลอด 6 ปี ดังนั้นการที่ยอดส่งออกลดลงอาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยไปจนเข้าสู่ปีหน้า ส่งผลให้นายโชอิจิ นาคากาว่า รัฐมนตรีคลังคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ เมื่อวานนี้ ต้องออกมาสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาให้กระเตื้องขึ้น
"ภาคการส่งออกและการลงทุนซึ่งเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังตกอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง" นายนาคากาว่า กล่าวในการแลงข่าว "เราต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้"
"ภาคการส่งออกเป็นกลไลหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ถ้าภาคการส่งออกซบเซาโอกาสที่เศรษฐกิจจะถดถอยก็มีมากตามไปด้วย" จุนโกะ นิชิโอกะ นักเศณษฐศาสตร์จาก RBS Securities Japan Ltd. ในโตเกียว กล่าว "อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกจะไม่กระเตื้องขึ้นจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว"
ยอดส่งออกไปยังสหรัฐร่วงลงกว่า 21.8% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นอัตราการหดตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ยอดส่งออกไปยังยุโรปลดลง 3.5% ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่ซบเซาส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 3% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--